แนวข้อสอบภาค ข ทุกตำแหน่ง

แจกฟรีแนวข้อสอบภาค ข
สรุปแนวข้อสอบ พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.25391. การพิจารณาของอธิดีกรมการปกครอง ต้องอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของ พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
2.
การเตรียมการของเจ้าหน้าที่เพื่อจัดให้มีคำสั่งทางปกครอง , การดำเนินการของเจ้าหน้าที่เพื่อจัดให้มีคำสั่งทางปกครอง , การเตรียมการของเจ้าหน้าที่เพื่อออกกฎ, การดำเนินการของเจ้าหน้าที่เพื่อออกกฎ คือวิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง

3.
การออกระเบียบ ไม่ใช่คำสั่งทางปกครอง

4.
การประกาศเตือน ไม่ใช่คำสั่งทางปกครอง

5.
พระราชบัญญัติไม่ใช่กฎ

6.
การเตรียมการและดำเนินการของเจ้าหน้าที่เพื่อจัดให้มีคำสั่งทางปกครอง คือการพิจารณาทางปกครอง

7.
เจ้าหน้าที่จะทำการพิจารณาทางปกครองไม่ได้ถ้า คู่หมั้นหรือคู่สมรสของคู่กรณี , ญาติของคู่กรณี , นายจ้างของคู่กรณี หรือเป็นคู่กรณีเองไม่ได้

8.
ถ้ากรณีเคยเป็นลูกจ้างของคู่กรณี เจ้าหน้าที่ทำการพิจารณาทางปกครองได้

9.
คู่กรณีไม่มีสิทธินำทนายความของตนเข้ามาในการพิจารณาทางปกครองได้

10.
คู่กรณีไม่มีสิทธิแต่งตั้งบุคคลหนึ่งบุคคลใดแทนตนในการพิจารณาทางปกครอง

11.
เจ้าหน้าที่ไม่มีสิทธิห้ามการปฏิบัติหน้าที่ของผู้แทนของคู่กรณีที่ไม่ทราบข้อเท็จจร ิงในเรื่องที่พิจารณาทางปกครองอย่างพียงพอ

12.
เมื่อมีการแต่งตั้งตัวแทนร่วมของคู่กรณีๆ จะยกเลิกการให้ตัวแทนร่วมดำเนินการแทนตนมิได้

13.
ในการพิจารณาทางปกครองเจ้าหน้าที่จะต้อง แจ้งสิทธิและหน้าที่ในกระบวนการพิจารณาทางปกครองให้คู่กรณีทราบ , ให้คู้กรณีมีโอกาสที่จะได้รับทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอ , ให้คู่กรณีมีโอกาสได้โต้แย้งและแสดงหลักฐานของตนเอง , ไม่อนุญาตให้ตรวจดูเอกสารหรือพยานหลักฐานได้ ในกรณีที่ต้องรักษาไว้เป็นความลับ

14.
คำสั่งทางปกครองที่อาจอุทธรณ์หรือโต้แย้งต่อไปได้ ให้ระบุกรณีที่อาจอุทธรณ์หรือโต้แย้งไว้ในคำสั่งด้วย

15.
คำสั่งทางปกครองที่ทำเป็นหนังสือ ต้องจัดให้มีเหตุผลไว้ด้วย

16.
คำสั่งทางปกครองที่มีข้อผิดพลาดเล็กน้อย เจ้าหน้าที่อาจแก้ไขเพิ่มเติมได้เสมอ

17.
คำสั่งทางปกครองที่ต้องให้เจ้าหน้าที่อื่นให้ความเห็นชอบก่อน จะไม่เสียไปถ้าเจ้าหน้าที่นั้นได้ให้ความเห็นชอบในภายหลังถือว่าใช้ได้

18.
การอุทธรณ์คำสั่งทางปกครองที่ไม่ออกโดยรัฐมนตรี ต้องยื่นต่อเจ้าหน้าที่ผู้ทำคำสั่งทางปกครองภายใน 15 วัน

19.
คำสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไม่ต้องอุทธรณ์ภายในฝ่ายปกครอง คู่กรณีสามารถฟ้องต่อศาลปกครองได้

20.
คำสั่งของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ไม่สามารถอุทธรณ์ได้แต่สามารถฟ้องศาลปกครองได้

21.
หากได้รับการวินิจฉัยความผิดถึงที่สุด และเห็นว่าคำสั่งทางปกครองที่ได้รับไม่เป็นธรรม สามารถฟ้องศาลปกครองภายใน 90 วันนับแต่วันรับทราบคำสั่ง

22.
เจ้าหน้าที่ต้องพิจารณาคำอุทธรณ์ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์

23.
การอุทธรณ์ไม่เป็นเหตุให้ทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครอง

24.
กรณีเห็นด้วยกับอุทธร์ให้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงคำสั่งทางปกครองตามความเห็นของตน

25.
กรณีไม่เห็นด้วยกับอุทธรณ์ ให้รายงานความเห็นพร้อมเหตุผลไปยังผู้มีอำนาจพิจารณาอุทธรณ์

26.
การเพิกถอนคำสั่งทางปกครองที่ลักษณะเป็นการให้ประโยชน์ต้องกระทำภายใน 90 วัน นับแต่รู้ถึงเหตุที่จะเพิกถอนคำสั่งนั้น

27.
ผู้ที่ไม่รู้ถึงความไม่ชอบด้วยกฎหมายของคำสั่งทางปกครองในขณะที่รับคำสั่งทางปกครอง สามารถอ้างความเชื่อโดยสุจริตได้เมื่อถูกเพิกถอนคำสั่งทางปกครอง

28.
ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเพิกถอนคำสั่งทางปกครองต้องร้องขอค่าทดแทนภายใน 180 วันนับแต่ได้รับแจ้งให้ทราบถึงการเพิกถอนนั้น

29.
การยื่นขอให้พิจารณาใหม่ ต้องกระทำภายใน 90 วัน นับแต่วันผู้นั้นได้รู้ถึงเหตุซึ่งอาจขอให้พิจารณาใหม่

30.
เจ้าหน้าที่อาจยึดอายัดทรัพย์สินของผู้ที่ไม่ชำระเงินตามกำหนดของคำสั่งทางปกครอง

31.
คำสั่งทางปกครองที่กำหนดให้ละเว้นกระทำ หากฝ่าฝืนต้องชำระค่าปรับทางปกครองไม่ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อวัน

32.
คำสั่งทางปกครองที่กำหนดให้กระทำแล้วไม่ปฏิบัติตาม เจ้าหน้าที่สามารถเข้าดำเนินการด้วยตนเองได้

33.
เจ้าหน้าที่อาจใช้กำลังเข้าดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามมาตราการบังคับทางปกครองได้ หากมีการต่อสู้ขัดขวาง

34.
การแจ้งคำสั่งทางปกครอง เจ้าหน้าที่จะกระทำด้วยวาจาก็ได้

35.
การแจ้งทางไปรษณีย์ต้องแจ้งโดยไปรษณีย์ตอบรับเท่านั้น

36.
การแจ้งภายในประเทศให้ถือว่าได้รับเมื่อครบกำหนด 7 วันนับตั้งแต่วันส่ง

37.
การแจ้งคำสั่งทางปกครองจะกระทำได้โดยการประกาศในหนังสือพิมพ์ ในกรณี ไม่รู้ตัวผู้รับ กรณีรู้ตัวแต่ไม่รู้ภูมิลำเนา กรณีมีผู้รับเกิน 100 คนขึ้นไป

38.
ในกรณีประกาศหรือลงหนังสือพิมพ์ให้ถือว่าได้รับแจ้งเมื่อพ้น 15 วันนับแต่วันได้แจ้ง

39.
ในกรณีที่เจ้าหน้าที่กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้นับวันสิ้นสุดของระยะเวลานั้นรวมเข้าด้วยกัน แม้วันสุดท้ายจะเป็นวันหยุดการทำงาน

40.
นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ไม่สามารถจะเป็นพยานในการส่งหนังสือเพื่อแจ้งคำสั่งทางปกครองในกรณีผู้รับไม่ยอมรับห รือไม่มีผู้รับ

41.
ค่าปรับทางปกครองมี 4 ระดับคือ 20,000 บาทสำหรับคณะกรรมการ และรัฐมนตรี

42. 15,000
บาทสำหรับปลัด อธิบดี ผู้ว่าฯ

43. 10,000
บาทสำหรับนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้แทนของรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานรัฐอื่นๆ

44. 5,000
บาทสำหรับพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายอื่นๆ ส่วนเอกชนที่ใช้อำนาจทางปกครองต้องเสนอให้รัฐมนตรีพิจารณาเป็นรายไปทั้งนี้ไม่เกิน 1.000 บาท

45.
ชั้นศาลปกครองได้แก่ ศาลปกครองชั้นต้น และศาลปกครองสูงสุด

46.
ศาลปกครองชั้นต้นแบ่งออกเป็นสองประเภท ได้แก่ศาลปกครองกลาง และศาลปกครองส่วนภูมิภาค

47.
ในวาระแรกกฎหมายได้กำหนดให้จัดตั้งศาลปกครองในรูปภูมิภาคจำนวน 16 แห่ง

48.
การเปิดทำการของศาลปกครองในภูมิภาค กฎหมายกำหนดให้เปิดทำการไม่น้อยกว่าปีละ 7 ศาล

49.
คดีที่ไม่อยู่ในศาลปกครองมี ,การดำเนินการเกี่ยวกับวินัยทหาร , คดีที่อยู่ในอำนาจศาลแรงงาน , คดีที่อยู่ในอำนาจศาลภาษีอากร , คดีที่อยู่ในอำนาจศาลล้มละลาย

50.
การฟ้องในคดีโต้แย้งคำสั่งทางปกครองต้องฟ้องภายใน 90 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น