แบบทดสอบ วิชาการเงิน การธนาคาร และการคลัง ( ส 40208)
ชุดที่ 2
จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุด
1. สถาบันการเงินใดเป็นนายหน้าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ก. ธนาคารพาณิชย์ ข.บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์
ค. บริษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ง. บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม
2. ข้อใดไม่ไช่ปัจจัยที่มีผลทำให้ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มสูงขึ้น
ก. การพิมพ์ธนบัตรและจัดทำเหรียญกษาปณ์ออกใช้เพิ่มขึ้น
ข. การเก็บภาษีเพื่อให้รัฐบาลมีเงินมาใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
ค. การประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์
ง. งบประมาณของรัฐบาลขาดดุลเพิ่มขึ้น
3. การแก้ปัญหาเงินเฟ้อ อาจทำได้โดยวิธีการใด
ก. ลดอัตราดอกเบี้ย ลดอัตราภาษี ลดการใช้จ่ายของรัฐบาล
ข. เพิ่มอัตราดอกเบี้ย เพิ่มอัตราภาษี ลดการใช้จ่ายของรัฐบาล
ค. เพิ่มอัตราดอกเบี้ย เพิ่มอัตราภาษี เพิ่มการช้จ่ายของรัฐบาล
ง. ลดอัตราดอกเบี้ย ลดอัตราภาษี เพิ่มการใช้จ่ายของรัฐบาล
4. ปัจจัยใดเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ
ก. อุปทานของสินค้ามีมากเกินไป ข. ปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจมีมากเกินไป
ค. การสั่งสินค้าเข้ามีมากเกินไป ง. อัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดสูงเกินไป
5. การลดอัตราภาษีเงินได้และการลดอัตราดอกเบี้ยเป็นมาตรการที่จะช่วยแก้ปัญหาในข้อใด
ก. เงินตึง การขาดดุลการค้า เงินเฟ้อ ข. เงินเฟ้อ เงินตึง การว่างงาน
ค. การว่างงาน เงินฝืด ง. การขาดดุลการค้า เงินฝืด
6. เมื่อเกิดภาวะเงินเฟ้อ สถานการณ์ใดมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น
ก. ประชาชนจะลงทุนในการผลิตเพิ่มขึ้นเพื่อหวังขายสินค้าในราคาสูงขึ้น
ข. ประชาชนจะจับจ่ายใช้สอยน้อยลงเนื่องจากราคาสินค้าสูงขึ้น
ค. ประชาชนจะใช้จ่ายในการเก็งกำไรเพิ่มขึ้นเพื่อหวังขายทรัพย์สินที่ซื้อไว้ในราคาสูงขึ้น
ง. รัฐบาลจะลดอัตราภาษีที่จัดเก็บเพื่อให้ประชาชนสามารถซื้อสินค้าในราคาที่สูงขึ้นได้
7. การลดค่าเงินบาทเป็นนโยบายที่รัฐบาลนำมาใช้เพื่อมุ่งแก้ปัญหาใด
ก. ดุลบัญชีทุนขาดดุล ข. ดุลบัญชีบริจาคขาดดุล
ค. ดุลการค้าขาดดุล ง. งบประมาณขาดดุล
8. เงินจำนวนใดไม่รวมอยู่กับงบประมาณรายรับของรัฐบาล
ก. ค่าสัมปทานจาการเก็บรังนก ข.เงินรายได้จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิต
ค. เงินช่วยเหลือจากรัฐบาลต่างประเทศ ง. เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินในประเทศ
9. การเก็บภาษีชนิดในมีส่วนช่วยให้การกระจายรายได้มีความเป็นธรรมยิ่งขึ้น
ก. ภาษีมูลค่าเพิ่ม ข. ภาษีมรดก ค. ภาษีศุลกากร ง. ภาษีสรรพสามิต
10. ปริมาณเงินหมายถึงข้อใด
ก. เงินส่วนที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจที่อยู่ในมือประชาชน
ข. เงินในข้อ ก. บวกกับส่วนที่อยู่ในธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ
ค. เงินในข้อ ก. บวกส่วนที่อยู่ในธนาคารในประเทศ
ง. เงินในข้อ ข. บวกกับส่วนที่อยู่ในคลังภาครับบาล
11. ข้อใดเป็นคำจำกัดความของ “เงิน” ที่ดีที่สุด
ก. เงิน คือ ธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ที่มีอยู่ในระบบเศรษฐกิจ
ข. เงิน คือวัตถุมีค่าที่ใช้ในการซื้อขายสินค้าและบริการ
ค. เงิน คือ อะไรก็ได้ที่สังคมยอมรับว่าเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน
ง. เงิน คือ ธนบัตร เหรียญกษาปณ์และบัตรเครดิตที่ใช้ในการแลกเปลี่ยน
12. ข้อใดไม่ใช่สาเหตุของเงินเฟ้อที่เกิดจากทางด้านอุปทาน
ก. การเพิ่มขึ้นของปริมาณเงินในประเทศ
ข. การเพิ่มขึ้นของค่าแรง
ค. การเพิ่ใมขึ้นของอัตราดอกเบี้ย
ง. การเพิ่มขึ้นของภาษีนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ
13. มาตรการใดใช้แก้ปัญหาเงินเฟ้อในระยะยาว
ก. ลดการใช้จ่ายของรัฐบาล ข. เพิ่มอัตราดอกเบี้ย
ค. ลดรายจ่ายในการลงทุน ง. เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต
14. ภาษีชนิดในช่วยลดความไม่เท่าเทียมกันของการกระจายรายได้
ก. ภาษีมูลค่าเพิ่ม ข. ภาษีการขาย ค. ภาษีมรดก ง.ภาษีขาเข้า
15. ข้อใดเป็นผลจาการที่ประเทศไทยเปลี่ยนมาใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอลตัว ในปี พ.ศ. 2540
ก. มูลค่าสินค้าออกของไทยในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐสูงขึ้น
ข. ต้นทุนสินค้าเข้าในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐสูงขึ้น
ค. หนี้ต่างประเทศของไทยมีมูลค่าสูงขึ้น
ง. ดุลเงินสำรองระหว่างประเทศของไทยสูงขึ้น
16. ภาษีประเภทใดเป็นภาษีทางอ้อม
ก. ภาษีเงินได้ ข. ภาษีศุลกากร
ค. ภาษีมรดก ง. ภาษีโรงเรือน
17. เศรษฐกิจจะขยายตัวมากที่สุดในกรณีใด
ก. ดุลงบประมาณขาดดุล ข. ดุลงบประมาณเกินดุล
ค. ดุลงบประมาณสมดุล ง. ดุลงบประมาณมีขนาดใหญ่
18. การที่ดัชนีราคาผู้บริโภคสูงขึ้นทุกปี แสดงอะไร
ก. รายได้เฉลี่ยลดลง ข. อำนาจซื้อของเงินลดลง
ค. มาตรฐานการครองชีพของประชาชนสูงขึ้น ง. ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศสูงขึ้น
19. ประเทศที่เจริญก้าวหน้าหรือประเทศที่พัฒนาแล้ว (Developed Countries) ปริมาณเงินจะประกอบด้วย
เงินประเภทใดเป็นส่วนใหญ่
ก. เงินเหรียญกษาปณ์ ข. ธนบัตร
ค. เงินฝากกระแสรายวัน ง. ข้อ ข. และ ค.
20. สิ่งใดที่มีลักษณะใกล้เงิน (Near Money)
ก. พันธบัตรรัฐบาล ข. ตั๋วเงินคลัง
ค. ที่ดิน ง. ข้อ ก. และ ข. ถูก
21 ข้อใดที่แสดงให้เห็นหน้าที่ของเงินในการเป็นมาตรฐานในการกำหนดมูลค่า
ก. ร้านขายข้าวสารติดป้ายประกาศราคาข้าวสารของเขาว่า “ข้าวสารราคาถังละ 120 บาท”
ข. ชาวสวนผักนำผักไปขายเอาเงินมาเก็บไว้
ค. นักธุรกิจกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์เป็นเงิน 100, 000 บาท โดยกำหนดว่าจะชำระคืน เมื่อครบกำหนด
3 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 18 ต่อปี
ง. ชาวนาเอาข้าวเปลือกไปแลกเป็นผ้าห่อมมาไว้ใช้ในฤดูหนาวที่จะถึงนี้
22. ข้อใดเป็นคุณสมบัติของเงินที่ดี
ก. เป็นสิ่งที่สมาชิกในสังคมยอมรับกันทั่วไป
ข. เป็นของหาได้ง่ายพอควร
ค. เป็นสิ่งที่นำติดตัวไปไหนมาไหนได้สะดวก
ง. เป็นของที่มีความคงทนถาวร ไม่เน่าเปื่อย หรือเปลี่ยนรูปลักษณะได้ง่าย
23. สิ่งที่จะถือว่าเป็นเงินจะต้องสามารถทำหน้าที่สำคัญเบื้องต้นของเงินได้ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของเงิน
ก. เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน
ข. เป็นมาตรฐานในการวัดมูลค่า
ค. เป็นเครื่องรักษาความีฐานะของบุคคล
ง. เป็นมาตรฐานการชำระหนี้ภายหน้า
24. เอกสารเครดิตที่นิยมใช้กันในวงการธุรกิจปัจจุบันได้แก่
ก. ตั๋วสัญญาใช้เงิน ข. ตั๋วแลกเงิน
ค. เช็ค ง. ข้อ ก. ข. และ ค. ถูก
25. “อาวัลเครดิต” หมายถึง
ก. เป็นเครดิตที่จะให้ลูกค้าสั่งจ่ายหรือโอนเงินโดยธนาคารยินยอมให้ลูกค้าใช้ “เครดิต” ได้ใน
ปริมาณวงเงินจำนวนหนึ่ง
ข. เป็นเครดิตที่ธนาคารเข้ารับประกันหนี้สินของลูกค้าตามที่ลูกค้าให้ค้ำประกัน
ค. เครดิตที่ธนาคารรับรองตั๋วเงินเกี่ยวกับการค้าต่างประเทศ
ง. เครดิตที่ธนาคารรับซื้อตั๋วเงินที่ลูกค้านำมาขายให้
26. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของธนาคารกลางโดยทั่วไป
ก. เป็นตัวแทนทางการเงินของรัฐ
ข. ควบคุมการเงินและเครดิตในระบบเศรษฐกิจของประเทศ
ค. รักษาเงินสำรองระหว่างประเทศ
ง. สร้างเงินฝาก หรือขยายเครดิต
27. ข้อใดเป็นหน้าที่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย มีต่อธนาคารพาณิชย์
ก. กำหนดเงื่อนใข และรักษาเงินสดสำรองที่ธนาคารพาณิชย์ต้องดำรงตามกฎหมาย
ข. เป็นสำนักงานกลางในการหักบัญชี
ค. ควบคุมตรวจสอบการดำเนินกิจการของะนาคารพาณิชย์โดยสม่ำเสมอ
ง. ถูกทุกข้อ
28. หน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการผลิตเหรียญกษาปณ์ คือ
ก. กระทรวงการคลัง ข. ธนาคารแห่งประเทศไทย
ค. ธนาคารพาณิชย์ ง. กระทรวงพาณิชย์
29. บริการด้านใดของธนาคารพาณิชย์ที่อำนวยความสะดวกแก่วงการธุรกิจมาก
ก. การับฝากเงินประจำ ข. การเป็นตัวแทนลูกค้าซื้อขายหุ้น
ค. การรับฝากของมีค่า ง. การรับฝากเงินกระแสรายวัน
30. การออก เลตเตอร์ ออฟ เครดิต (Letter of Credit) ของธนาคารพาณิชย์ หมายถึงอะไร
ก. การออกสมุดเช็คแก่ลูค้าที่เปิดบัญชีกระแสรายวันกับธนาคาร
ข. เป็นตั๋วแลกเงินชนิดที่บุคคลรับจากบุคคล หรือพ่อค้ารับจากพ่อค้า
ค. เป็นเอกสารหลักฐานการค้ำประกันความปลอดภัยของสินค้าที่ส่งไปยังต่างประเทศ
ง. เป็นหนังสือสัญญาการค้ำประกันของธนาคารพาณิชย์แก่การซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศ
31. สถาบันการเงินประเภทใดที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในการส่งเสริมการลงทุน
ก. ธนาคารออมสิน ข. บริษัทเงินทุนและหลักทรัพย์
ค. ธนาคารพาณิชย์ ง. บริษัทเงินทุนตุสาหกรรมแห่งประเทศไทย 32. ดอกเบี้ยชนิดใดที่ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้
ก. ดอกเบี้ยเงินฝากประจำกับธนาคารพาณิชย์ ข. ดอกเบี้ยเงินฝากประจำกับธนาคารกรุงไทย
ค. ดอกเบี้ยเงินฝากกับธนาคารออมสิน ง. ดอกเบี้ยจากพันธบัตรรัฐบาล
33. สถาบันการเงินชนิดใดที่ไม่มีหน้าที่ระดมเงินออกจากประชาชนทั่วไปโดยตรง
ก. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ข. บริษัทเงินทุนและหลักทรัพย์
ค. สหกรณ์การเกษตร ง. บรรษัทเวินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
34. บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ส่วนใหญ่ดัดแปลงมาจาก
ก. บริษัทเงินทุน ข. บริษัทหลักทรัพย์
ค. สหกรณ์ออมทรพัย์ ง. บริษัทจัดสรรบ้านและที่ดิน
35. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์
ก. เป็นรัฐวิสาหกิจ
ข. อยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ค. รับฝากเงินจากประชาชน ชนิดที่ต้องจ่ายคืนเมื่อทวงถาม หรือเมื่อสิ้นระยะเวลาอันมีกำหนด
ยกเว้นประเภทที่ใช้เช็คในการทวงถาม
ง. มีอำนาจในการออก ซื้อ หรือขายตั๋วเงิน
36. กิจการที่บริษัทหลักทรัพย์จะดำเนินการได้มีอะไรบ้าง
ก. รับฝากเงินกระแสรายวัน การถอนเงินทำโดยใช้เช็ค
ข. ออกพันธบัตรหลักทรัพย์และสลากหลักทรัพย์
ค. กิจการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และกิจการจัดการลงทุน
ง. ข้อ ก. และ ข. ถูก
37. กระทรวงการคลังมีหน้าที่กำกับและควบคุมสถาบันการเงินชนิดใดบ้าง
ก. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ข. สหกรณ์การเกษตร
ค. สหกรณ์ออมทรัพย์ ง. บริษัทประกันชีวิต
38. ในประเทศไทยสถาบันการเงินประเภทใดที่มีความสำคัญในการขายสินเชื่อแก่เอกชนเป็นปริมาณมาก
ที่สุดและรองลงมาตามลำดับ
ก. ธนาคารออมสิน-ธนาคารพาณิชย์ ข. ธนาคารพาณิชย์-ธนาคารออมสิน
ค. ธนาคารพาณิชย์-บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ง. บริษัทเงินทุนและหลักทรัพย์-ธนาคารพาณิชย์
39. การจัดทำงบประมาณแผ่นดินโดยทั่วไปแตกต่างจาการทำงบประมาณของหน่วยธุรกิจเอกชนที่สำคัญคือ
ก. การทำงบประมาณแผ่นดินจะกำหนดงบรายจ่ายขึ้นก่อนงบรายรับ
ข. การทำงบประมาณแผ่นดินจะทำให้เป็นงบประมาณขาดดุลเสมอ
ค. การทำงบประมาณแผ่นดินจะไม่คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของค่าของเงิน
ง. ข้อ ก. และ ข. ถูก
40. ปีงบประมาณของประเทศไทยอยู่ในช่วงระยะเวลาใด
ก. 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม ของปีปฏิทินเดียวกัน
ข. 13 เมษายน ถึง 12 เมษายน ของปีปฏิทินถัดไป
ค. 30 ตุลาคม ถึง 1 กันยายน ของปีปฏิทินถัดไป
ง. 1 ตุลาคม ถึง 30 กันยายน ของปีปฏิทินถัดไป
41. ผู้มีอำนาจยินยอมหรือไม่ยินยอมให้รัฐบาลดำเนินการตามงบประมาณแผ่นดินที่จัดทำไว้ คือ
ก. รัฐสภา ข. คณะรัฐมนตรี
ค. กระทรวงการคลัง ง. ธนาคารแห่งประเทศไทย
42. ข้อใดไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักในการจัดทำงบประมาณประจำปีของรัฐบาล
ก. เพื่อจัดสรรทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพในการผลิตตามต้องการ
ข. เพื่อกระจายรายได้ประชาชาติไปสู่ประชาชนส่วนใหญ่ให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด
ค. เพื่อให้รายได้ประชาชาติที่แท้จริงของประเทศเพิ่มขึ้นในอัตราสูงขึ้นตามที่ตั้งเป้าหมายไว้
ง. เพื่อรักษาเถียรภาพของราคาให้อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจส่วนรวม
43. เงินที่เหลือจากการใช้จ่ายของงบประมาณปีก่อน ๆ เรียกว่าอะไร
ก. เงินคงคลัง ข. เงินออม ค. เงินสำรอง ง. งบประมาณเกินดุล
44. ทางด้านงบรายรับของงบประมาณประจำปีของไทยมีรายรับประเภทใหญ่ ๆ อะไรบ้าง
ก. รายได้ และ เงินกู้ ข. ภาษีอากร กำไรจากรัฐวิสาหกิจ และเงินกู้
ค. รายได้ เงินกู้ และ เงินคงคลัง ง. ภาษีอากร เงินกู้ และเงินคลคลัง
45. งบรายจ่ายในงบประมาณประจำปีเมื่อแยกตามลักษณะงานแล้วจะมี 9 ลักษณะงานที่มียอดรายจ่ายสูง
กว่ายอดร่ยของงานลักษณะอื่น ๆ ติดต่อกันมาหลายปี ลักษณะงานทั้ง 3 อย่างนั้น คือ
ก. การป้องกันประเทศ การศึกษา และ เศรษฐกิจ
ข. การป้องกันประเทศ การรักษาความสงบภายใน และสาธารณุปการ
ค. การศึกษา เศรษฐกิจ และ การสาธารณสุข
ง. การป้องกันประเทศ การศึกษา และการชำระหนี้เงินกู้
46. รายได้ของรัฐบาลที่มียอดเงินสูงสุดเป็นประจำทุกปีคือ
ก. รายได้จากรัฐพาณิชย์
ข. รายได้จากการขายสิ่งของและบริการ
ค. รายได้จากค่าปรับและค่าธรรมเนียมอนุญาตต่าง ๆ
ง. รายได้จากภาษีอากร
47. ในปัจจุบันรายจ่ายในลักษณะงานอะไรที่มียอดรายจ่ายน้อยที่สุดในงบประมาณประจำปีของไทย
ก. รายจ่ายด้านชำระหนี้เงินกู้ ข. รายจ่ายด้านสาธาณูปการ
ค. รายยจ่ายด้านการป้องกันประเทศ ง. รายจ่ายด้านบริหารทั่วไป
48. รายจ่ายในรายการใดบ้างที่จัดว่า เป็นรายจ่ายด้านเศรษฐกิจทั้งหมด
ก. การคมนาคม การเกษตร และการสังคมสงเคราะห์
ข. การพลังงาน และเชื้อเพลิง การอุตสาหกรรมและการคมนาคม
ค. การคมนาคมและเหมืองแร่ การส่งเสริมการท่องเที่ยวและการบริการชุมชน
ง. การสังคมสงเคราะห์ การบริการชุมชน และการชำระดอกเบี้ยเงินกู้
49. ภาษีทางอ้อม หมายถึง
ก. ภาษีที่ผู้เสียภาษีไม่ต้องไปเสียภาษีต่อหน่วยราชการที่มีหน้าที่จัดเก็บด้วยตนเอง แต่ให้ผู้อื่น
ไปเสียแทนได้
ข. ภาษีที่คิดในอัตราก้าวหน้า
ค. ภาษีที่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีสามารถผลักภาระไปให้ผู้อื่นเป็นฝ่ายรับภาระการเสียภาษีนั้นได้
ง. ภาษีผู้มีหน้าที่เสียภาษีขอผัดผ่อนการเสียภาษีนั้นได้
50. บุคคลประเภทใดต่อไปนี้ที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ก. ข้าราชการและลูกจ้าประจำ
ข. ลูกจ้างบริษัท
ค. เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีหนาที่จัดเก็บภาษี
ง. บุคคลในคณะฑูตต่างประเทศที่ประจำในประเทศไทย
51. ข้อใดต่อไปนี้มีหน้าที่ต้องเสียภาษีนิติบุคคล
ก. บริษัทจำกัด ข. สมาคม ค. มูลนิธิ ง. สหกรณ์
52. “ภาวะเงินเฟ้อ” หมายถึง ภาวะเศรษฐกิจในข้อใด
ก. ราคาสินค้าโดยที่วไปลดต่ำลงเรื่อย ๆ ข. ราคาสินค้าโดยทั่วไปสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ค. มีตลาดมืดเกิดขึ้นโดยทั่วไป ง. อำนาจซื้อของเงินตราเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา
53. มาตรการปฏิบัติข้อใดต่อไปนี้ที่มีผลช่วยแก้ปัญหาภาวะเงินเฟ้อ
ก. การเพิ่มอัตราเงินสดสำรองที่ต้องดำรงของธนาคารพาณิชย์
ข. รัฐบาลเพิ่มอัตราภาษีที่เรียกเก็บจากประชาชน
ค. รัฐบาลจะชะลอหรืองดการใช้จ่ายของรัฐบาลให้น้อยลงกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้เดิม
ง. ข้อ ก. ข. และ ค. ถูก
54. เงินประเภทใดที่ใข้น้อยกว่าเงินประเภทอื่นในระบบเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนา
ก. ธนบัตร ข. เหรียญกษาปณ์
ค. เงินฝากกระแสรายวัน ง. ธนบัตร และเหรียญกษาปณ์ใช้น้อยพอ ๆ กัน
55. เงินประเภทใดที่มีการใช้กันในระยะแรกของการใช้เงิน
ก. เงินโลหะ ข. เงินโภคภัณฑ์
ค. บัตรธนาคาร ง. เงินกระดาษ
56. การใช้เงินอย่างไรที่มีความสำคัญน้อยในระบบเศรษฐกิจ
ก. เป็นสื่อกลางของการแลกเปลี่ยน ข. เป็ฯมาตรฐานการชำระหนี้ภายหน้า
ค. เป็นปัจจัยในการเก็บรักษาค่า ง. เป็นรางวัล
57. วิวัฒนาการของเงินกระดาษในระยะยแรกสุดอยู่ในรูปของอะไร
ก. ตั๋วแลกเงิน ข. ตั๋วสัญญาใช้เงิน
ค. ใบรับฝากโลหะมีค่า
58. สาเหตุที่ทำให้มีการใช้เงินกระดาษเป็นครั้งแรกคืออะไร
ก. การใช้เงินโลหะไม่สะดวกเพราะมีน้หนักมาก
ข. ขาดแคลนดลหะใช้ผลิตเหรียญ
ค. คนทั่วไปไม่ยอมรับเงินเหรียญเพราะมีการปลอมกันมาก
ง. คนทั่วไปนิยมเก็บเวินเหรียญไว้เพราะโลหะที่ใช้ทำเหรียญมีค่ามากว่าค่าเป็นเงินของเหรียญนั้น
59. สาเหตุข้อใดที่ทำให้การใช้เช็คในประเทศไทยยังอยู่ในวงจำกัด เมื่อเปรียบเทียบกับในประเทศพัฒนา
ก. เพราะมีการปลอมกันมาก
ข. เพราะขาดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน
ค. สถาบันการเงินที่ออกเช็คยังมีน้อยเมื่อเทียบกับพื้นที่และจำนวนประชากร
ง. เพราะไม่สะดวก เนื่องจากมีขั้นตอนการเปลี่ยนเป็นเงินมาก
60. ข้อใดต่อไปนี้แสดงถึง “ค่าภายในของเงิน”
ก. เงิน 500 บาทซื้อข้าวสารชนิด 100% ได้ 1 ถัง
ข. เงิน 34 บาท แลกได้ 1 ดอลลาร์สหรัฐ
ค. ธนบัตรใบละ 500 บาท แลกเหรียญ 1 บาทได้ 500 เหรียญ
ง. โลหะที่ใช้ทำเหรียญ 1 บาท มีมูลค่ามากกว่า 1 บาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น